Powered By Blogger

วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2555

สูตรเด็ดอายุยืน-ต้านแก่แบบฉบับแดนปลาดิบ

                         ชาติที่อายุยืนคงกระพันที่สุดในปัจจุบันเห็นจะไม่มีใครเกิน  ญี่ปุ่น-แดนปลาดิบ อีกแล้วล่ะค่ะ  ทั่วพิภพโลกานี้เขามีอายุขัยเฉลี่ยกันแค่ 71 ปี  แต่พี่ยุ่นแกปาเข้าไปถึง 83 ปีเลยทีเดียว เรียกว่าอยู่กันยืนยงตราบวาซาบิไม่เปลี่ยนสี  ชาเขียวยังขมปี๋นั่นแหละค่ะ




                         สำหรับเทคนิคที่น่าสนใจของคนญี่ปุ่นที่ตายยากตายเย็น  เอ๊ย...ตายช้านั้น  ผู้เชี่ยวชาญอายุรวัฒน์ก็สงสัยตะหงิดใจอยู่เหมือนกับเราๆค่ะ  เพราะว่าคนญี่ปุ่นนี้ทั้งดื่มจัด (สาเก)  สูบจัดและเครียดจัดอีก  ดูไม่น่าจะอายุยืนยงคงกระพันได้นัก  จึงพากันศึกษาอย่างเอาจริงเอาจังจนพบกุญแจสำคัญที่เผยสูตรลับบูชิโดต้านชราที่ต่างจากชาติอื่นดังนี้ค่ะ


       1. กินชาเขียว  ข้อนี้ช่วยได้มากเลยค่ะ  เพราะในชาเขียวมีธาตุต้านแก่ชื่อ "คาเทชิน" (Catechin) ซึ่งที่จริงมีอยู่ในชาชนิดอื่นด้วยแต่น้อยกว่าเพราะดันเอาไปหมักเสียก่อนชง  ชาเขียวญี่ปุ่นจึงครองแชมป์ต้านชราไปด้วยประการฉะนี้  แม้คนญี่ปุ่นจะสูบบุหรี่จัด  แต่ไม่ค่อยเกิดมะเร็ง  ทางผู้เชี่ยวชาญท่านก็ว่าเป็นเพราะเครื่องดื่มประจำชาติชนิดนี้แหละค่ะที่ช่วยบรรดาสิงห์อมควันลูกพระอาทิตย์ไว้








ถั่วเน่านัตโตะของญี่ปุ่นค่ะ
2.กินเต้าหู้มาก    คนเอเชียและญี่ปุ่นนี่ครองแชมป์กินถั่วเหลืองเลยนะคะ  คนจีนกินเต้าหู้กับซีอิ้วถั่วเหลือง  คนญี่ปุ่นกินทั้งเต้าหู้  ถั่วเน่านัตโตะและซุปมิโซะจึงไม่ค่อยพบมะเร็งเต้านมกับต่อมลูกหมากมากเหมือนชาติอื่น   คนอินโดฯกินข้าวเกรียบถั่วเหลือง "เต็มเป้"  ส่วนคนไทยเราหรือคะก็รับเอาทุกชาติมาเลยทั้งเต้าหู้ก็ได้  เต้าหู้ยี้ก็มี  ถั่วเน่าของเราก็มีอยู่ทางเหนือแถมลำขนาด  ไม่ยืดติดคางติดคอเหมือนของญี่ปุ่น  และยังอีกสารพัดถั่วเหลืองที่มีมาให้กินไม่ขาด












เบ็นโตะ
3.อาหารชุดเบ็นโตะ     อาหารแบบกินในถาดทั้งคาวหวาน  จัดเป็นรวมมิตรมาในถ้วยเล็กถ้วยน้อยแบบญี่ปุ่นนี้แม้จะดูน้อยคล้ายอาหารบัดพลีที่ทางสามแพร่ง  แต่นี่แหละเคล็ดตายช้าเลยค่ะ  เพราะยิ่งกินมาก ก็ยิ่งได้ "สนิมแก่" มาจากการย่อยอาหาร  ฉะนั้นการกินเบ็นโตะแบบญี่ปุ่นนี่จะอิ่มกำลังดีไม่มากไม่น้อยเกินไปช่วยให้โกร็ธฮอร์โมนหลั่งออกมาได้ดีด้วยค่ะ









4.ไม่ปรุง   วิถีการกินแบบไม่เติมน้ำตาลซักช้อน  น้ำปลาซักกระฉอกหรือน้ำส้มซักหน่อยนั้นมีส่วนทำให้คนญี่ปุ่นอายุยืนขึ้นได้มาก  หากท่านไปสั่งราเมนในร้านญี่ปุ่นแล้วขอพิเศษลดเส้นเพิ่มลูกชิ้นหรืออะไรทำนองนี้  เขาไม่สามารถทำให้ท่านได้  และหากท่านยังหาญนำเอาพริกป่นน้ำปลาเข้าไปปรุงเพิ่มด้วย  เขาจะไม่พอใจมากทีเดียวเพราะจะรู้สึกเหมือนว่าของที่เขาทำมไม่อร่อยดีหรือจึงต้องปรุงเพิ่ม  ถือเป็นการดูถูกฝีมือกันทีเดียว  คนญี่ปุ่นจะพอใจในรสชาติของอาหารที่ทำมาดีพร้อมอยู่แล้ว  ดังนั้นเครื่องปรุงจึงมีไม่มากนักอย่างโชยุ  น้ำปลาญี่ปุ่นหรือพริกป่นปาปริก้าที่มีแต่กลิ่นอ่อนๆมากกว่า



5.ขยับกายเป็นอาจิณ   คนญี่ปุ่นกินอาหารกันเต็มคราบก็จริงรวมทั้งขนมอร่อยอีกสารพัดอย่าง  แต่ก็ไม่ค่อยมีคนอ้วนเผละลงพุงแบบอเมริกันชนมากนัก  เหตุหนึ่งเท่าที่สังเกตเห็นคือ "เรื่องเดิน" ค่ะ  คนญี่ปุ่นเดินเก่งมากและเดินเร็วเรียกได้ว่าออกกำลังกันทุกวันทุกเวลาจริงๆ  ยิ่งหนุ่มสาวออฟฟิศยิ่งมีความสามารถพิเศษทั้งเดินกินและยืนสูดจ๊วบราเมนได้ก่อนจะกลับไปทำงานต่อในช่วงบ่าย  เรียกได้ว่ามี  active life  กันอยู่ทุกขณะ  วิถีชีวิตแบบ "ขยับเท่ากับออกกำลังกาย" นี้เองค่ะที่เป็นตัวช่วยยืดอายุขัยเฉลี่ยของคนญี่ปุ่น




สุดท้ายนี้ขอจบด้วยอาหารญี่ป่นที่สุดแสนจะน่าทานนะคะ







นมอูฐสด ลดธาตุแก่

              พูดถึงนมอูฐ.... บางคนอาจเกาหัวแกรกๆนึกสงสัยในใจว่า เอ๊ะ...มันกินได้ด้วยเหรอเนี่ย
หรือ  กินนมอูฐแล้วไม่แก่...เอ๊ะ!แล้วตรูจะหาซื้อจากห้างไหนมากินได้ฟะ   ใจเย็นๆค่ะ
เรื่องที่จะมาเล่าให้ฟังในวันนี้เป็นข้อมูลที่อยากให้อ่านกันเป็นความรู้รอบตัวก็แล้วกันนะคะ เพราะในบ้านเรายังไม่มีวางจำหน่าย คงมีแต่เฉพาะในยุโรป แต่อยากจะโฆษณาสรรพคุณให้คุณผู้อ่านที่รักทุกท่านได้ทราบถึงประโยชน์ของนมอูฐให้ได้รู้กันว่ามันดีหรือไม่ดียังไง แตกต่างจากนมวัวที่เราทานกันอยู่ทุกวันหรือไม่นะคะ

นมอูฐสด  ลดธาตุแก่




ทำไมนมอูฐมีประโยชน์


                                 ชาวเบดูอินที่ต้องใช้ชีวิตกินนอนอยู่กลางทะเลทรายมีเจ้า"อูฐ"เปรียบเสมือนทั้งเพื่อนและยานพาหนะ และมันยังเป็นของวิเศษที่สวรรค์ประทานมาให้เพราะมันช่วยให้พวกเขายังชีพอยู่ในทะเลทรายได้  ทั้งยังมีสุขภาพดีอีกด้วย  ด้วยตัวอูฐเองนั้นธรรมชาติสร้างความสามารถพิเศษให้พวกมันสามารถเก็บน้ำเก่ง ฉี่น้อย และยังเก็บวิตามินและสารอาหารได้ดีด้วย  เรียกได้ว่าของที่อูฐผลิตออกมานั้นแทบจะเสมือนโอสถกลายๆได้  ไม่ว่าจะเป็นฉี่, ขน, หนัง และยัง " นม" ที่สร้าออกมาให้ลูกอูฐได้ดื่มด้วย
                                 อูฐจึงถือเป็นสมบัติล้ำค่าอันดับต้นของชาวทะเลทราย
ที่ว่ากษีรธาราแห่งอูฐนี้เป็นที่สุดของวิตามินของชาวเบดูอินก็ด้วยว่าในทะเลทรายที่ไม่สามารถปลูกสิ่งใดได้นั้น  แต่ชาวเบดูอินทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างไม่เคยประสบโรคขาดอาหารรุนแรงและไม่จำเป็นต้องหาวิตามินเม็ดมาทานเสริมกันให้วุ่นวายเหมือนอย่างคนเมืองเลย
ล้วนแต่เติมสุขภาพด้วยนมอูฐทั้งนั้น
                                 เวลานี้ทางยุโรปนมอูฐเป็นที่นิยมมากเพราะส่วนประกอบของนมอูฐที่ต่างออกไปจากนมวัวและนมแพะก็คือ  
                                 วิตามินซีสูง และไขมันต่ำ
                                 เป็นเรื่องน่าสนใจมากนะคะหากว่าเราดื่มนมแล้วได้วิตามินซีเช่นเดียวกับที่กินในผักและผลไม้สดๆ  จึงไม่น่าแปลกที่ชาวทะเลทรายไม่ได้กินส้ม กินมะนาวเปรี้ยวจี๊ด แต่ก็ไม่ป่วยด้วยโรคลักปิดลักเปิดเพราะได้วิตามินเพียบแปล้จากนมอูฐนี่เอง


    นมอูฐ                                              นมแพะ                                         นมวัว


    ไขมันต่ำ ย่อยง่าย                            ไขมันย่อยง่าย                               ไขมันสูงสุดย่อยยากกว่า
    โปรตีนย่อยง่าย                                โปรตีนย่อยง่าย                             โปรตีนเม็ดใหญ่
    ธาตุเสริมภูมิสูง                                 ธาตุเสริมภูมิปานกลาง             ธาติเสริมภูมิสุงต่ำอยู่ที่การเลี้ยง
    น้ำตาลแพ้ต่ำ                                    น้ำตาลแพ้ต่ำ                                 น้ำตาลแพ้สูงกว่า

ดูไปยิ่งเห็นว่านมอูฐเสมือนเป็นนมเพื่อสุขภาพเพราะโอกาสแพ้ก็น้อยแถมไขมันก็ต่ำ  แต่วิตามินซีสูงจึงเหมาะกับผู้รักสุขภาพอย่างเราๆอย่างยิ่งเลยนะคะ 
แหมมม   อยากลองกินจัง


                             ยัง ยังไม่หมดเพียงเท่านี้นะคะ  วิตามินเหลวที่ได้จากนมอูฐนั้น นอกจากจะดื่มแล้วดีแล้วยังสามารถนำมาใช้ทำเวชสำอางทาก็ได้
               สวยด้วยอูฐ  อิอิ
เพราะในน้ำนมอูฐมีกรดอัลฟ่าไฮดร็อกซี (AHA) ที่เป็นพระเอกช่วยเรื่องผิวโดยตรง  ช่วยจางรอยริ้วยับย่นบางๆบนผิว  ผนึกพลังกับวิตามินเอ บี และอีในไขมนจากอูฐและไหนจะแร่ธาตุช่วยบำรุงเส้นประสาทและผิวพรรณอีกพะเรอเกวียน จึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้เชี่ยวชาญนำไปใช้เป็นเครื่องปรุงสำคัญในเครื่องประทินผิวต่างๆ  
                 จะกินก็ได้   ใช้ทาก็ดี  มีที่ไหนอีก


                    เห็นถึงประโยชน์ของนมอูฐกันแล้วใช่มั้ยคะ บ้านเราอดใจรออีกนิดนมอูฐกำลังจะมาเคาะประตูถึงบ้านแล้ว  รสอร่อยดื่มง่าย (รู้ดี ยังกับเคยกินแนะ อิอิ) เด็กแพ้นมวัวก็ดื่มได้
ผู้ใหญ่ใช้ทาอัพสวยได้ ยืดเวลาความแก่ได้ด้วยนะคะ








วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2555

ยินดีต้อนรับทุกท่าน(ที่กลัวความแก่)เข้าสู่blogชลอชราของเรานะคะ



          เชื่อเหลือเกินว่าทุกท่าน ทุกคนบนโลกนี้ โดย  เฉพาะอย่างยิ่งสุภาพสตรี  (ที่บางครั้งก็อาจไม่สุภาพเท่าไรนัก)  อย่างเราๆ   เมื่อย่างเข้าวัยขึ้นเลข3 เหมือนดิฉัน คงจะต้องมีอาการหนาวๆร้อนๆ กลัวความแก่กันเป็นแถวๆใช่ไหมคะ       ก็แหมมม      ถึงใครจะว่าอายุเป็นแค่เพียงตัวเลขก็เถอะ แต่ใครเล่าอยากมีหน้าเหี่ยวๆ พุงยื่นๆ ก้นย้อยๆ บ้างล่ะคะ    ขืนปล่อยให้เป็นไปตามสังขารอย่างนั้นล่ะก็   มีหวังคุณซะมีที่บ้านคงรีบวิ่งโร่มีกิ๊กมีกั๊กกันให้ปวดหัวไปหมดล่ะค่ะ   เพราะฉะนั้นเราอย่าปล่อยให้เรื่องแก่ๆๆของเรามาเป็นข้ออ้างให้พวกคุณสามีตัวดีทั้งหลายใช้เป็นข้ออ้างในการมีกิ๊กกันเถอะค่ะ      และหากท่านใดที่ยังอยู่บนคานเอ๊ยยังไม่มีสามีก็เรียนรู้ไว้นะคะ เราจะได้ สวย ใส สมวัย   เด็กประถมจะได้ไม่เรียกป้า (เดี๊ยะ..แม่ตบตายชัก น่าโมโหมากกกก) เนี่ยะล่ะคะ ดิฉันถึงต้องทำblog นี้ขึ้นมาเพื่อเราๆท่านๆ (เป็นblogเร่งด่วน เพราะสังขารมันไม่รอเราอ่ะ) ได้ใช้เป็นประโยชน์และเป็นความรู้แก่ทุกท่านนะคะ

          ยังไงก็อย่าลืมติดตามนะคะ  จะคอยอัพเดทตลอดค่ะ :)

เทคนิคนาโนหรือจะสู้เทคนิคนานานิ้ว

                    ยุคสมัยนี้เราจะเห็นได้ว่าการทำสวยหรือการทำศัลยกรรมนั้นเป็นเรื่องปกติธรรมดาไปซะแล้ว   สาวๆบางคนยอมเจ็บเจียนตายเพียงเพื่อความสวยทั้งๆที่อาจจะต้องเสี่ยงกับผลลัพธ์ที่ได้    เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะโชคดีทำแล้วออกมาสวยโดยไม่มีผลข้างเคียง   มีหลายต่อหลายรายที่ทำแล้วหน้าตาน่ากลัวกว่าเดิมตามที่เราได้เคยเห็นกันในข่าวอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน   เรามาหาวิธีที่ไม่ต้องเจ็บตัวและไม่เสี่ยงและสามารถทำเองได้ง่ายๆมาช่วยชลอชรากันเถอะค่ะ   เราจะได้สวยแบบธรรมชาติ (ลงทัณฑ์) กันนะคะ


                   "นาโน"  ที่ว่าแน่หรือจะสู้นานานิ้วของเราได้
ของไทยเราก็มีดรรชนีบำบัดไม่น้อยหน้าใครมาตั้งแต่สมัยโบราณ
                       
                    สวยทั้งทีต้องสวยทะลุตีนกา


            1.        นวดแก้ม                     


                    เริ่มจากมือจุ่มน้ำอุ่นให้สบายแล้วเอามาผ่อนคลายหน้าโดยใช้อุ้งมือนวดจากแก้มสองข้างวนออกไปให้กล้ามเนื้อโหนกแก้มและเนื้ออุ้งปากได้ขยับบ้าง   จะได้ไม่กางออกจนแก้มพองต้องไปฉีดยาลดกราม






            2.        แถมตา                         


                     รอบตาเป็นส่วนบอก "แก่"  ที่สำคัญ  ฉะนั้นครีมทาหน้าจึงมักห้ามไม่ให้ใช้รอบตา 
ต้องหาอายครีมโดยเฉพาะ  ซึ่งการเคาะสนิมที่หนังตานี้ให้ใช้วิธีเอาอุ้งนิ้วเรียวสวยของเรานวดเวลาหลับตาโดยให้คลึงเบาๆนวดชี้ออกจากหัวตาไปหางตาทางเดียว  เลือดจะได้ไปเลี้ยงไม่สับสน




           3.      คลึงหน้าผาก                 


                     หน้าผากของคนมีเลือดมาเลี้ยงมาก  หากแตกเพียงเล็กน้อยเลือดอาจไหลเป็นท่อแตกได้  การใช้เทคนิคนวด, ดึง, หยิก หรือตีเบาๆในบริเวณนี้   ถ้าทำถุกวิธีจะช่วยต้านชราได้มาก  เพราะหากที่ใดมีเลือดมาเลี้ยงที่นั่นก็ย่อมมีออกซิเจนมาเล่นงานสนิมแก่ด้วย










            4.       อยากเงย                        


                     แหงนคอขึ้นมองเพดานบ่อยๆ  ถ้าให้ขลังขึ้น  ควร  "แลบลิ้น"  ด้วยจะช่วยได้มากแม้ไม่อยากเป็นปอดหยิบ  เพราะท่านี้เป็นท่าที่เรียกว่าช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อคอชะลอความหย่อนยานของสิ่งเล็กๆที่เรียกว่า "เหนียง" ได้ดีที่สุด






            5.       เสยแปรง                        









                      ไม่ว่าจะแล้งผมหรือผมบาง  แม้ไม่มีผมเลย  การแปรงนวดหนังศีรษะหรือเอามือนวดหัวบ่อยๆนั้นมันช่วยผ่อนคลายดีนัก  เหมือนเวลาปวดหัวที่มักเอามือกดขมับ  เป็นการจับจุดตึงให้ผ่อนคลายซึ่งบนหนังหัวเรานั้นก็มีจุดที่ว่านี้เยอะค่ะ  ถ้าจับถูกจะกลายเป็น  "จุดสบาย"  อย่างที่ขมับสองข้างกับด้านหลังส่วนท้ายทอยเมื่อนวดแล้วก็ผ่อนคลายดีไม่น้อย




             6.        แสร้งหวี                           


                       จะใช้หวีพลาสติกหรือหวีไม้ก็ได้นะคะ  ให้เลือกชนิดซี่ห่าง  มีปุ่มหวีกว้างใหญ่จะได้ใช้นวดหนังศีรษะด้วย  ช่วยให้เลือดไหลเวียนดี  การหวีผมบ่อยมีข้อดีคือทำให้เลือดไปเลี้ยงผมจะได้ไม่แห้งแล้งเพราะเส้นผมเป็นของยาว ถ้าเลือดเลี้ยงไม่ดีจะเริ่มแตกที่ส่วนปลายก่อนแล้วไล่มาจนถึงโคนจนหลุดร่วงง่าย  ใช้หวีซี่ห่างๆหวีบ่อยๆเพราะจะได้ไม่ทำร้ายผม


             7.       ดีที่ยิ้ม                


                       หมั่นยิ้มเข้าไว้ให้เป็นนิสัย ไม่ต้องกลัวว่ายิ้มแล้วย้ำตีนกา  เพราะว่าการยิ้มใช้กล้ามเนื้อน้อยกว่าหน้าบึ้งมาก  หากยิ้มเข้าไว้บ่อยๆจะค่อยๆลบตีนการอบปากที่เกิดจากการเผลอทำหน้าบึ้งไปได้มาก  อยากให้ยิ้มไปถึงที่ตาด้วยเพราะจะช่วยกระตุ้นให้ใจมีธาตุสุขเอิบอิ่มอีกทางด้วยค่ะ








              8.       ทิ่มหัว                     


                        ว่างๆก็ให้ทำท่า  "ค้างคาว"  เอาหัวลงให้เลือดมาเลี้ยงหน้า  หน้าจะได้ผ่องใสไม่ใช่หน้าเลือด ส่วนท่านที่ปวดต้นคอคงไม่ต้องฝืนห้อยคอแบบเวตาล  เอาแค่พองามๆด้วยการนอนหงายศีรษะที่ขอบเตียงก็ได้แล้วนับหนึ่งถึงร้อยก็นานพอที่เลือดมาเลี้ยงหัวและใบหน้าให้อ่อนเยาว์ค่ะ






                        ทั้งแปดกระบวนท่าตบบำบัด  เอ๊ย...นวดบำบัดนี้ดีตรงที่ไม่ต้องใช้ตัวช่วยมาก  หากใช้แค่ "ดรรชนี"และนิ้วน้อยๆให้ครบก็สยบแก่ได้แล้ว  ไม่ต้องหาสปาบำบัดที่ไหนให้เหนื่อยเงินในกระเป๋า แค่ย่นหน้า เอ๊ย...ยิ้มร่าไล่ตีนกาก็เป็นอันใช้ได้


                        ขอให้ติดตามกันต่อไปจะมีเรื่องดีๆที่สามารถสยบความแก่ของเรามาให้ท่านผู้อ่านที่รักได้นำไปใช้ขจัดมารตัวร้ายออกไปจากชีวิตเราอีกนะคะ






"ขอขอบคุฌข้อมูลดีดีจากคอลัมน์ชะลอชรา นิตยสารคู่สร้างคู่สม