Powered By Blogger

วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2555

เทคนิคนาโนหรือจะสู้เทคนิคนานานิ้ว

                    ยุคสมัยนี้เราจะเห็นได้ว่าการทำสวยหรือการทำศัลยกรรมนั้นเป็นเรื่องปกติธรรมดาไปซะแล้ว   สาวๆบางคนยอมเจ็บเจียนตายเพียงเพื่อความสวยทั้งๆที่อาจจะต้องเสี่ยงกับผลลัพธ์ที่ได้    เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะโชคดีทำแล้วออกมาสวยโดยไม่มีผลข้างเคียง   มีหลายต่อหลายรายที่ทำแล้วหน้าตาน่ากลัวกว่าเดิมตามที่เราได้เคยเห็นกันในข่าวอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน   เรามาหาวิธีที่ไม่ต้องเจ็บตัวและไม่เสี่ยงและสามารถทำเองได้ง่ายๆมาช่วยชลอชรากันเถอะค่ะ   เราจะได้สวยแบบธรรมชาติ (ลงทัณฑ์) กันนะคะ


                   "นาโน"  ที่ว่าแน่หรือจะสู้นานานิ้วของเราได้
ของไทยเราก็มีดรรชนีบำบัดไม่น้อยหน้าใครมาตั้งแต่สมัยโบราณ
                       
                    สวยทั้งทีต้องสวยทะลุตีนกา


            1.        นวดแก้ม                     


                    เริ่มจากมือจุ่มน้ำอุ่นให้สบายแล้วเอามาผ่อนคลายหน้าโดยใช้อุ้งมือนวดจากแก้มสองข้างวนออกไปให้กล้ามเนื้อโหนกแก้มและเนื้ออุ้งปากได้ขยับบ้าง   จะได้ไม่กางออกจนแก้มพองต้องไปฉีดยาลดกราม






            2.        แถมตา                         


                     รอบตาเป็นส่วนบอก "แก่"  ที่สำคัญ  ฉะนั้นครีมทาหน้าจึงมักห้ามไม่ให้ใช้รอบตา 
ต้องหาอายครีมโดยเฉพาะ  ซึ่งการเคาะสนิมที่หนังตานี้ให้ใช้วิธีเอาอุ้งนิ้วเรียวสวยของเรานวดเวลาหลับตาโดยให้คลึงเบาๆนวดชี้ออกจากหัวตาไปหางตาทางเดียว  เลือดจะได้ไปเลี้ยงไม่สับสน




           3.      คลึงหน้าผาก                 


                     หน้าผากของคนมีเลือดมาเลี้ยงมาก  หากแตกเพียงเล็กน้อยเลือดอาจไหลเป็นท่อแตกได้  การใช้เทคนิคนวด, ดึง, หยิก หรือตีเบาๆในบริเวณนี้   ถ้าทำถุกวิธีจะช่วยต้านชราได้มาก  เพราะหากที่ใดมีเลือดมาเลี้ยงที่นั่นก็ย่อมมีออกซิเจนมาเล่นงานสนิมแก่ด้วย










            4.       อยากเงย                        


                     แหงนคอขึ้นมองเพดานบ่อยๆ  ถ้าให้ขลังขึ้น  ควร  "แลบลิ้น"  ด้วยจะช่วยได้มากแม้ไม่อยากเป็นปอดหยิบ  เพราะท่านี้เป็นท่าที่เรียกว่าช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อคอชะลอความหย่อนยานของสิ่งเล็กๆที่เรียกว่า "เหนียง" ได้ดีที่สุด






            5.       เสยแปรง                        









                      ไม่ว่าจะแล้งผมหรือผมบาง  แม้ไม่มีผมเลย  การแปรงนวดหนังศีรษะหรือเอามือนวดหัวบ่อยๆนั้นมันช่วยผ่อนคลายดีนัก  เหมือนเวลาปวดหัวที่มักเอามือกดขมับ  เป็นการจับจุดตึงให้ผ่อนคลายซึ่งบนหนังหัวเรานั้นก็มีจุดที่ว่านี้เยอะค่ะ  ถ้าจับถูกจะกลายเป็น  "จุดสบาย"  อย่างที่ขมับสองข้างกับด้านหลังส่วนท้ายทอยเมื่อนวดแล้วก็ผ่อนคลายดีไม่น้อย




             6.        แสร้งหวี                           


                       จะใช้หวีพลาสติกหรือหวีไม้ก็ได้นะคะ  ให้เลือกชนิดซี่ห่าง  มีปุ่มหวีกว้างใหญ่จะได้ใช้นวดหนังศีรษะด้วย  ช่วยให้เลือดไหลเวียนดี  การหวีผมบ่อยมีข้อดีคือทำให้เลือดไปเลี้ยงผมจะได้ไม่แห้งแล้งเพราะเส้นผมเป็นของยาว ถ้าเลือดเลี้ยงไม่ดีจะเริ่มแตกที่ส่วนปลายก่อนแล้วไล่มาจนถึงโคนจนหลุดร่วงง่าย  ใช้หวีซี่ห่างๆหวีบ่อยๆเพราะจะได้ไม่ทำร้ายผม


             7.       ดีที่ยิ้ม                


                       หมั่นยิ้มเข้าไว้ให้เป็นนิสัย ไม่ต้องกลัวว่ายิ้มแล้วย้ำตีนกา  เพราะว่าการยิ้มใช้กล้ามเนื้อน้อยกว่าหน้าบึ้งมาก  หากยิ้มเข้าไว้บ่อยๆจะค่อยๆลบตีนการอบปากที่เกิดจากการเผลอทำหน้าบึ้งไปได้มาก  อยากให้ยิ้มไปถึงที่ตาด้วยเพราะจะช่วยกระตุ้นให้ใจมีธาตุสุขเอิบอิ่มอีกทางด้วยค่ะ








              8.       ทิ่มหัว                     


                        ว่างๆก็ให้ทำท่า  "ค้างคาว"  เอาหัวลงให้เลือดมาเลี้ยงหน้า  หน้าจะได้ผ่องใสไม่ใช่หน้าเลือด ส่วนท่านที่ปวดต้นคอคงไม่ต้องฝืนห้อยคอแบบเวตาล  เอาแค่พองามๆด้วยการนอนหงายศีรษะที่ขอบเตียงก็ได้แล้วนับหนึ่งถึงร้อยก็นานพอที่เลือดมาเลี้ยงหัวและใบหน้าให้อ่อนเยาว์ค่ะ






                        ทั้งแปดกระบวนท่าตบบำบัด  เอ๊ย...นวดบำบัดนี้ดีตรงที่ไม่ต้องใช้ตัวช่วยมาก  หากใช้แค่ "ดรรชนี"และนิ้วน้อยๆให้ครบก็สยบแก่ได้แล้ว  ไม่ต้องหาสปาบำบัดที่ไหนให้เหนื่อยเงินในกระเป๋า แค่ย่นหน้า เอ๊ย...ยิ้มร่าไล่ตีนกาก็เป็นอันใช้ได้


                        ขอให้ติดตามกันต่อไปจะมีเรื่องดีๆที่สามารถสยบความแก่ของเรามาให้ท่านผู้อ่านที่รักได้นำไปใช้ขจัดมารตัวร้ายออกไปจากชีวิตเราอีกนะคะ






"ขอขอบคุฌข้อมูลดีดีจากคอลัมน์ชะลอชรา นิตยสารคู่สร้างคู่สม







1 ความคิดเห็น: